การตกแต่งภายในด้วยตนเอง(ทำเองทั้งหมด)

สินค้าตกแต่งภายใน

บริการตกแต่งภายใน

สำหรับผู้ที่มีเวลาพอหรือเป็นงานอดิเรกหรือต้องการประหยัดงบประมาณมีขั้นตอนการทำดังนี้(ประสพการณ์ส่วนตัว)

1. วัดที่และกำหนดโครงร่างแปลนความต้องการ หน้าที่ใช้สอยต่างๆแล้วเขียนลงแผ่นกระดาษ

2. จัดหารูปแบบที่ต้องการ อาจจะมาจากในหนังสือ เว็บไซด์ รูปถ่ายที่เคยไปสถานที่นั้นมาแล้วชอบ

3. ทำการเรียบเรียงแปลนและรูปแบบจัดให้เป็นกลุ่มว่าพื้นที่ต่างๆ รูปแบบเป็นยังไงสียังไง แสงยังไง

4. กำหนดวัสดุให้กับส่วนต่างๆเช่น พื้น ผนัง ฝ้า ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ลอยตัว ผ้าม่านผ้าบุ วอล์เปเปอร์ สุขภัณฑ์ ป้ายต่างๆ ของตกแต่งต่างๆ โดยดูจากแคตตาล๊อกหรือหนังสือหรือดูตามร้านค้าต่างๆ

5. งานผนังตกแต่งและงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินอาจจะต้องนำแบบที่เตรียมไว้ส่งให้ผู้เขียนแบบทำแบบเพื่อการผลิตให้
หรือให้ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่มีคนเขียนแบบอยู่ในทีมงานทำให้โดยรวมราคาไปกับงานผลิต

6. รวมราคาทั้งหมดอย่างคร่าวๆโดยการนำแบบไปให้ช่างในแต่ละประเภทตีราคาเช่น งานปูน
งานกระเบื้อง=ช่างปูน งานฝ้า=ช่างฝ้า งานเฟอร์นิเจอร์=ช่างเฟอร์นิเจอร์ งานสี=ช่างทาสี งานผ้าม่าน=ร้านผ้าม่าน โดยการตีแบบรวมวัสดุ หรือแบบแยกวัสดุก็ได้แล้วแต่การตกลงกันหรือแล้วแต่ชนิดของงาน

7. พิจารณาราคาทั้งหมดว่าตรงกับงบประมาณที่มีใหมถ้าไม่ตรงก็ทำการปรับลดปริมาณงาน รูปแบบหรือวัสดุลง

8. ตกลงว่าจ่างช่างนัดวันที่ให้ช่างเข้าทำงาน(งานบางประเภทที่แยกซื้อวัสดุให้ช่างควรเตรียมไว้ให้พร้อมก่อน เพื่อให้ช่างไม่มาเสียเที่ยวเสียเวลา)
โดยเรียงลำดับงานดังนี้ 8.1งานรื้อถอนปรับหน้างานให้พร้อมตกแต่ง 8.2 งานผนังและงานฝ้างานไฟฟ้า ประปา 8.3 งานพื้น 8.4 งานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน+ทำสี 8.5 งานทาสีผนังหรือีหรือปิดวอล์เปเปอร์ 8.6 งานผ้าม่านและผ้าบุ 8.7 จัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและของตกแต่ง 8.8 งานป้าย(ถ้ามี) โดยที่การเรียงลำดับนั้นอาจจะมีการคาบเกี่ยวหรือสลับช่วงเวลากันบ้างแล้วแต่รูปแบบของงานด้วยแต่ไม่ควร
ให้เข้ามาพร้อมกันทั้งหมดถ้าคุณไม่มีประสพการณ์ในการประสานงานที่ดีพอในขั้นตอนนี้ควรติดตามดูงานอย่าง
สมำ่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานถ้าเข้าใจผิดก็ยังแก้ไขไม่มากนักยังไงเสียเมื่อมีการรื้อถอน
ก็ต้องเกิดค่าใช้จ่ายและเวลาขึ้นแน่นอนอยู่ที่ว่าใครต้องรับผิดชอบ(ซึ่งบางครั้งก็ดูยากว่าเป็นความผิดพลาดของฝ่ายไหนหรือทั้งสองฝ่าย)


วิธีนี้ข้อดีคือได้ความภูมิใจเมื่อทำสำเร็จประหยัดงบประมาณ(ถ้าไม่มีงานแก้ไข) ได้งานตรงตามที่ตนเองต้องการ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา รูปแบบตรงตามความต้องการของตนเองแต่อาจไม่ถูกหลักการออกแบบ
หรือสมัยนิยมมากนัก ข้อเสียคือถ้างานซับซ้อนอาจจะทำไม่สำเร็จหรือเสร็จแค่บางส่วนแต่เหนือยเสียก่อนจึงเลิกทำไป งบประมาณอาจบานปลายอันเนื่องจากทำไปแก้ไปหรือประเมินงบในขั้นแรกไม่ถูกต้อง ใช้เวลามากถ้าคุณประสพการณ์ไม่มากนัก เหมาะกับงานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก